วันพฤหัสบดีที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2553

ระบายบ้างน่ะ

บล็อกนี้ ทำมาเพราะเบื่อจริงๆ เบี่อในเห็นการเสแสร้งแกล้งทำ ของเพื่อนร่วมแผ่นดินเดียวกัน ไม่ใช่พูดถึงศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ตำบลสองสึง อ.แกลง จ.ระยอง น่ะครับ แต่จากทั้งหลายพื้นที่ในประเทศไทยของเราทุกคนนี้ล่ะครับ
แต่ต้องโหนที่นี้ไว้ เพราะเป็นที่ที่บอกผมว่าถ้าเราไม่นำ กสิกรรม นำเกษตรกรรม บนอู่ข้าวอู่น้ำแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง พื้นนี้ไว้แล้ว จะเป็นอย่างไร บอกผู้ใหญ่ว่าผมทำอินเตอร์เน็ตอีกตัวหนึ่งน่ะ บอก อ.ยุทธ์ ว่าทำบล็อกอีกตัวหนึ่งน่ะ ทำด้วยคำว่าจิตอาสา แต่เขียนเนื้อหาด้วยจิตสำนึก และบอกครูที่สอนผมในนามวิทยากรหลายท่านว่า ขอทำหน้าที่ ที่คนอื่นๆ คิดว่าเราทำได้ ตามความประสงค์แห่งสัจจะธรรมเถิดน่ะ ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ตายแทนเพื่อน นั้นคือความนอกรีตของผม ผมรับคำสั่งแต่ จะทำหรือไม่ ถ้าผลเสียมันตกไปอยู่ที่อนาคตของความเป็นไทย ตายไปก็แค่ตายปล่าว จึุงเป็นที่มาของ Email:chuchat2499@gmail.com ตอนอยู่ในผ้าเหลือง ก็มีเรื่องร้อนๆไปเสมอๆ แต่เพราะศิล ทำให้เกิดสมาธิ สมาธิมาปัญญาจึงเกิด แต่ก็ต้องพอปัญญาเกิดก็เห็นแสงสว่าง บ้างครั้งที่ไปทำสื่อให้ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง แต่ละที่ ก็มีข้อคิดแต่ละเรื่อง แต่อาศัยยึดหลักคำสอนของผู้มีคุณุประการต่อแผ่นดินหลายๆท่าน แต่หลายท่านไม่ได้รับการเชิดชูเท่าที่ควร จึงเป็นที่มาของบล็อก "ปราชญ์แห่งสยามประเทศ" แต่ตอนนี้หยุดอยู่เพราะไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง กับโจกท์ที่ตั้งไป แต่สักวันคงเจอะ
แวะไปเว็บ ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ สองสลึง (ไอ้ที่ท่าน ๆ อ่านอยู่นี้เป็นเพียงบล็อก แต่จะทำให้เป็นเว็บบล็อกก็ได้ คงไม่ต้องอธิบายมากไม่เกี่ยวกันเท่าไร) ที่แวะไปก็ไปดูเยี่ยมชมให้กำลังใจกัน การจะเป็นสื่อกลางในขณะที่ตนเองอยู่ตรงนั้นด้วย เป็นอะไรที่ลำบากใจมากๆ เพราะเป็นการสื่อเรื่องราวของตนเอง แสดงภาพของตนเอง แต่ ณ ที่แห่งนี้เป็นการแสดงความรู้สึกนึกคิด ของผู้ทำเอง ในสายตาของผู้ทำเอง แต่ก็ยังอยู่ในความเหมาะสมที่จะทำได้
ศิษย์สองสลึง หมายถึง ผู้ที่ได้ร่ำเรียนมาจากสองสลึง มิได้หมายความว่าศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ ตำบลสองสลึง เพียงอย่างเดียว ยังมีอีกหลายคน หลายท่านที่ไม่ได้ทำงานที่นั้นโดยตรง แต่มาทำงานในพื้นที่ของตำบลสองสลึง และเคยเอื้อเฟื้อเกื้อกุลกันมา ในหลายๆกรรมหลายๆวาระ เอก.ศิษย์สองสลึง ที่จริงหลายๆคนในเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ เรียกพี่เอก แต่คนชื่อเอกซ้ำกัน สองเอก เอก เลยเป็นพี่เอกสองสลึง และผมก็ชอบตั้งแต่นั้นมา เพราะถ้ามีคนพูดถึงชื่อเรา เค้าจะเรียก เอกสองสลึง แต่สำหรับอีกเอก เขาเรียกว่า “พี่เอกเฉยๆ” แต่เอกนี้ไม่เฉยเพราะมีตั้งสองสลึง ถึงไม่เต็มแต่มี
ท่านผู้เข้ามาเยี่ยมชมครับ
คนที่เรียนหรืออบรมจากที่แล้วออกไปปฏิบัติ มีสองประเภทใหญ่ๆ ครับ
๑. เรียนจบไปแล้วนำไปปฏิบัติแก่ตนเองและครอบครัว
๒. เรียนจบแล้วทำให้ตนเองพออยู่ พอกิน พอใช้แล้ว ก็ไปเป็นแกนนำของชุมชน
ที่ กล่าวมานี้เพราะต้องการให้เข้าใจในแนวเดียวกันว่ามีลักษณะอย่างนี้ แต่สำหรับคนที่เป็นวิทยากรด้วยแล้วนั้นมันต้องไปอบรมอีกแบบหนึ่งครับ เรียกว่า "การอบรมวิทยากรกระบวนการ" ไม่ใช่อบรมหลักสูตรจากที่ศูนย์แล้วมาช่วยงาน หรือ มาทำงาน เลยกลายไปเป็นวิทยากรกับเค้า
ด้วย อันนี้ไม่ใช่ การจะเป็นวิทยากรต้องไปอบรมก่อนครับโดยที่ศูนย์เป็นผู้ส่งไป แล้วก็กลับมาเป็นวิทยากรประจำฐาน มันมีขั้นมีตอนของมันอยู่ ก็ขอเชิญชวนครับ ผมเองเข้าร่วม ๔ ครั้งในสองปี การอบรมวิทยากรกระบวนการนี้สนุกครับ คือเหล่าวิทยากรในแต่ละฐานการเรียนรู้จะมีเทคนิค วิธีการใหม่ๆ มาสาธิต และเรียนรู้ร่วมกัน นั้นคือเสน่ห์ของเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ ที่สามารถทำอะไรได้ชัดๆ เป็นลำดับต้นๆ ของประเทศ เหล่าวิทยากรกระบวนการนี้ล่ะครับเป็นการสอนต่อๆกันไปจากรุ่นสู่รุ่น จากพี่ถึงน้อง แต่มีหลายคนครับที่มั่วแต่ทำให้คนอื่นๆ แต่ไม่มีใครมองเห็นคุณุประการที่มีส่วนรวมในการขับเคลื่อนกระบวนการ พื้นที่เล็กๆ ตรงนี้ในโลกอินเตอร์เน็ตที่กว้างใหญ่ไพศาล คงเป็นได้แค่เศษแผ่นทองคำเปลวเล็กๆ ขาดๆ วิ้นๆ จะหลุดแล่ ไม่หลุดแล่ ที่ปิดอยู่หลังองค์พระปฏิมา แต่พวกเขาก็ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป
ไม่พูดพร่ำทำเพลงแล้วเชิญพบกับป๋าอวบ วิทยากรรุ่นแรกๆ ของเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติครับ
ป๋าอวบ รู้จักมาตั้งนานชื่อจริงแกผมยังไม่เคยถามเลย
เจอะแกครั้งแรกตอนมาอบรม อยู่ที่ฐานหมูหลุม กับพี่ตุ้ม มีวีดีโอด้วยถ่ายเอง ตัดต่อเสร็จแล้ว แต่ไม่รู้ไปไหนหมดแล้ว ว่างๆจะหามาเพิ่มให้ครับ ท่านผู้นี้เป็นวิทยากรที่ผมพูดได้ว่าน่านับถือ เพราะคำตอบจากคำถามฟังง่ายฟังเข้าใจนำไปทดลองปฏิบัติได้จริงๆ ปัจจุบันสังกัดที่ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติ มาบเอื้องครับ 
ใครจำกันได้ก็ไปเยี่ยมกันบ้างน่ะครับ ถ้าหาไม่เจอะ ลองมองดูแถวๆแปลที่ผูกกับต้นไม้ครับ เผาถ่านก็สุดยอดอีกท่านหนึ่งเทคนิคใหม่ๆ ไม่ทราบ ถามแกแกก็บอกว่า "ก็ต้องลองดู ไม่ทำมันก็ไม่รู้ หน๊อ"

ไม่มีความคิดเห็น: